top of page


นิราศเมืองแกลง 
 
เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอน ประพันธ์โดยสุนทรภู่ 
เป็นนิราศเรื่องแรกของท่าน ที่ได้แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2349 
มีใจความกล่าวถึงการเดินทางโดยเรือ เพื่อไปยังเมืองแกลง 
โดยมีศิษย์ 2 คนร่วมโดยสารไปด้วยกัน คือ น้อยกับพุ่ม 
และมีผู้นำทางชื่อนายแสง เป้าหมายการเดินทางของสุนทรภู่ไม่ปรากฏแน่ชัด 
บ้างว่าเขาต้องการไปบวชกับบิดา บ้างว่าเขาเดินทางไปขอเงินเพื่อกลับมาแต่งงาน 
นักวิชาการยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าสุนทรภู่กลับไปทำไม 
แต่ทางจังหวัดระยองได้นำเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น
ไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่เมืองแกลง

- กวีนิพนธ์อื่นของสุนทรภู่ -

      • 
นิราศภูเขาทอง คลิก
      • นิราศพระประธม คลิก
      • นิราศพระบาท คลิก
      • โคลงนิราศสุพรรณ คลิก
      • สุภาษิตสอนหญิง คลิก
      • กาพย์พระไชยสุริยา คลิก

 



• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก
 

 




๏ โอ้สังเวชวาสนานิจจาเอ๋ย
จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย      
ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา

ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้า      
ไม่เหมือนเราภุมรินถวิลหา
จะพลัดพรากจากกันไม่ทันลา      
ใช้แต่ตาต่างถ้อยสุนทรวอน

โอ้จำใจไกลนุชสุดสวาท      
จึงนิราศเรื่องรักเป็นอักษร
ให้เห็นอกตกยากเมื่อจากจร      
ไปดงดอนแดนป่าพนาวัน

กับศิษย์น้องสองนายล้วนชายหนุ่ม      
น้อยกับพุ่มเพื่อนไร้ในไพรสัณฑ์
กับนายแสงแจ้งทางกลางอารัญ      
จะพากันแรมทางไปต่างเมือง ฯ
      
๏ ถึงยามสองล่องลำนาวาเลื่อน      
พอดวงเดือนดั้นเมฆขึ้นเหลืองเหลือง
ถึงวัดแจ้งแสงจันทร์จำรัสเรือง      
แลชำเลืองเหลียวหลังหลั่งน้ำตา

เป็นห่วงหนึ่งถึงชนกที่ปกเกล้า      
จะแสนเศร้าครวญคอยละห้อยหา
ทั้งจากแดนแสนห่วงดวงกานดา      
โอ้อุรารุ่มร้อนอ่อนกำลัง

ถึงสามปลื้มพี่นี้ร่ำปล้ำแต่ทุกข์      
สุดจะปลุกใจปลื้มให้ลืมหลัง
ขออารักษ์หลักประเทศนิเวศน์วัง      
เทพทั้งเมืองฟ้าสุราลัย

ขอฝากน้องสองรามารดาด้วย      
เอ็นดูช่วยปกครองให้ผ่องใส
ตัวข้าบาทจะนิราศออกแรมไพร      
ให้พ้นภัยคลาดแคล้วอย่าแพ้วพาน

ถึงสำเพ็งเก๋งตั้งริมฝั่งน้ำ      
แพประจำจอดเรียงเคียงขนาน
มีซุ้มซอกตรอกนางเจ้าประจาน      
ยังสำราญร้องขับไม่หลับลง

โอ้ธานีศรีอยุธยาเอ๋ย      
นึกจะเชยก็ได้ชมสมประสงค์
จะลำบากยากแค้นไปแดนดง      
เอาพุ่มพงเพิงเขาเป็นเหย้าเรือน ฯ



นิราศเมืองแกลง
ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ที่มา หนังสือ "ประชุมนิราศสุนทรภู่" 
สำนักพิมพ์วิสดอม ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑  พ.ศ. ๒๕๕๔

bottom of page